สไตล์มินิมอล Japandi

เทรนด์ดีไซน์ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆไม่หยุดนิ่ง บางเทรนด์ที่อยู่มาซักพักและยังคงนิยมอยู่ เช่น minimal ก็แตกแขนงไปได้อีกหลายไสตล์การตกแต่ง

มาทำความรู้จักกับ Japandi style กัน!

⭐หนึ่งในเทรนด์สไตล์มินิมอล ที่มาจากการผสมผสานสไตล์ Japanese(ตะวันออก)🇯🇵 และ Scandinavian(ตะวันตก)🇳🇴 เข้าด้วยกัน!!⭐

ถึงแม้ทั้งสองสไตล์จะอยู่คนละฟากโลกกัน🥹 แต่ก็มีจุดเด่นและแนวคิดต่างๆ รวมไปถึงวิถีการใช้ชีวิตที่ใกล้เคียงกัน นั่นคือ “ความเรียบง่าย” ที่นำไปสู่การดีไซน์โดยเลือกใช้โทนสีและวัสดุจากธรรมชาติ ที่ให้ความอบอุ่น สบายตา จนเป็นที่นิยมในขณะนี้

😉สนใจอยากรู้ว่าละสิ… สไตล์นี้จะแตกต่างกับสไตล์อื่นยังไง ไปดูกัน!!

😁ฝากขายร้านนะ SAK WoodWorks มีไม้สนรัสเซียแปรรูปเกรด A เป็นไม้สีอ่อน ลายสวยมากๆ เหมาะสุดๆสำหรับใช้ตกแต่งในสไตล์ Japandi เพราะเป็นพันธุ์ไม้สน Norway spruce ที่มีถิ่นกำเนิดใน scandinavia นั่นเอง เข้ากั๊นเข้ากันแบบสุดๆ สนใจทักมาได้เลยนะ

🔹1. โทนสีจากธรรมชาติ

โทนสีที่เลือกใช้เป็นอันดับต้นๆก็คือ Earth tone นั่นเอง เป็นสีที่ใกล้เคียงกับสีธรรมชาติ เช่น ใบไม้ ใบหญ้า ดิน หิน น้ำ เป็นต้น การจับคู่กันของสีที่ไม่ฉูดฉาด แตกต่างกันได้ แต่ให้ยังอยู่ในโทนเดียวกันนะ

🔹2. วัสดุจากธรรมชาติ

พื้นผิวธรรมชาติ เป็นส่วนสำคัญในทั้ง Japanese และ Scandinavian ผิวของเปลือกไม้ หิน ลวดลายของเนื้อไม้ มักจะถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบที่ให้ความรู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของถิ่นกำเนิดสไตล์การตกแต่งนี้ ตัวอย่างเช่น ไม้สนที่มีลายสวยๆก็สามารถนำมาใช้ทำพื้น ผนัง หรือ เฟอร์นิเจอร์ เพื่อขับความเป็น Japandi ออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์

🔹3. ลายเส้นที่เรียบง่าย

แน่นอนว่าถ้าจืดชืดไป ก็ไม่เป็นที่น่าสนใจเท่าไหร่ จึงควรจะมีลวดลายเส้นบ้าง แต่ไม่ควรเป็นลายเส้นที่เยอะพันกันยุ่งเหยิง มีการชนกัน ตัดกัน มากเกินไป

ที่เราต้องใส่ใจเป็นพิเศษคือเลือกเฉพาะ ลายเส้นที่ “เรียบง่าย” เช่น เส้น ตรง และเส้นโค้ง โดยเฉพาะเส้นโค้งเป็นที่นิยมมาก เช่น แจกัน เฟอร์นิเจอร์ เก้าอี้สตูล เบาะนั่ง เป็นต้น

🔹4. รับแสงจากธรรมชาติ

จุดนี้รับมาโดยตรงจากสไตล์ scandinavian ที่มักจะทำบ้านที่มีเพดานสูง มีหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสงแดดเข้ามาภายในตัวบ้าน ให้โทนสีที่อบอุ่นนุ่มนวลจากแสงธรรมชาติ เพิ่มความ cozy ให้กับตัวบ้าน ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น

แต่สำหรับในไทยอาจจะต้องประยุกต์เพิ่มม่านโปร่งแสงกันแดดเข้าไปซักหน่อยเพื่อกรองแดดที่มากเกินไป เพราะหน้าร้อนที่ไทยกับสแกนดิเนเวียต่างกันมากจริงๆ