สีย้อมไม้ สีทาไม้ คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร

สีย้อมไม้ และสีทาไม้ แตกต่างกันอย่างไร

บางท่านอาจจะยังไม่ทราบข้อแตกต่าง ระหว่างสีสองประเภทนี้ที่ใช้กับงานไม้ หากต้องการใช้สีสำหรับงานไม้ จะต้องเลือกสีแบบไหน และเหมาะสำหรับงานไหน วันนี้เราจะมาไขความแตกต่างระหว่างสีทั้งสองชนิดกันครับ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปเลือกใช้ได้ถูกต้อง

ตามเข้าไปอ่านกันได้เลย

และสำหรับใครที่มองหาไม้ที่มีลวดลายสวยๆเหมาะทั้งงานโครงสร้าง ตกแต่งภายใน ภายนอก รวมถึงทำเฟอร์นิเจอร์ สามารถเข้ามาเลือกไม้สนสวยๆได้ที่นี่เลย

สีย้อมไม้ หรือ ที่ใช้เรียกในงานก่อสร้างคือ สีย้อมไม้วู้ดสเตน (Wood Stain) เป็นสีย้อมไม้ที่มีเนื้อสีโปร่งใส โดยจะมีสีหรือไม่มีสีผสมด้วยก็ได้ตามเฉดสีที่เราเลือก

โดยวัตถุประสงค์ของสีย้อมไม้ คือ เพื่อรักษาสภาพของเนื้อไม้ให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น หรือเพื่อทำให้งานไม้ที่ดูเก่ากลับมามีสีสดใสขึ้นเหมือนใหม่

สิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจน คือ สีย้อมไม้เมื่อทาลงไปแล้วจะยังคงเห็นลวดลายของเนื้อไม้ชัดเจนอยู่ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเนื้อไม้ที่มีความสวยงาม เช่น ไม้สน

สีโปร่งแสงมีให้เลือก 3 แบบ ตามความเงา คือ แบบใส แบบเงา และแบบกึ่งเงา

คุณสมบัติของสีย้อมไม้

1. ใช้ยืดอายุการใช้งานของไม้ให้ยาวนานขึ้น โดยปกป้องไม้จากสภาพแวดล้อมต่างๆ คงลวดลายและสีที่สวยงามของไม้เอาไว้

2. ไม่ต้องทาซ้ำบ่อยๆ ถ้าไม่ได้ติดตั้งใจุดที่โดนฝนตรงๆ หรือไม่ได้สัมผัสกับดินและน้ำ

3. สีย้อมไม้จะกันน้ำซึมเข้าสูเนื้อไม้ แต่น้ำในเนื้อไม้จะระเหยออกไปได้ ทำให้ไม้ที่ทาด้วยสีย้อมไม้ ทนทานต่อสภาพอากาศมากยิ่งขึ้น อายุการใช้งานประมาณ 2-4 ปี ตามที่ระบุไว้จากผู้ผลิต

4. สีย้อมไม้จะแทรกซึมเข้าไปในเนื้อไม้ จึงทำให้มีความยืดหยุ่นมาก จึงทำให้ไม่มีปัญหาแม้ว่าไม้จะยืด หรือหดตัว

5. สามารถใช้ได้ทั้งงานภายนอกและภายใน ยกเว้นพื้น ซึ่งจะใช้ “สีย้อมพื้นไม้” โดยเฉพาะ หรือ Deck Stain

6. สามารถทาเนื้อไม้ได้เลย โดยไม่ต้องทาสีรองพื้นก่อน

สีทาไม้ เป็นสีที่ใช้ได้ทั้งงานไม้และงานโลหะ โดยตัวสีจะเป็น ฟิล์มทึบแสง ประเภทอัลคีดเรซิน (Alkyd Resin Enamel) ซึ่งฟิล์มประเภทนี้ จะปกปิดลวดลายของไม้

วัตถุประสงค์ของสีทาไม้ คือ เพื่อยืดอายุการใช้งานของไม้ ซึ่งจะทำให้ไม้ทนสภาพอากาศมากขึ้นได้ จะใช้กับงานที่ไม่ต้องการโชว์ลวดลายของไม้ ตัวอย่างเช่น French Colonial style, Old Confederate US style หรือ Soviet Union ในช่วงปี 1950-1960. นอกจากนี้ยังใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับ เฟอร์นิเจอร์ไม้, เครื่องดนตรี และโปรเจค DIY ต่างๆ เมื่อคุณต้องการให้มีลักษณะเฉพาะของไม้ในผลิตภัณฑ์สุดท้าย แต่ไม่ต้องการแสดงลวดลายไม้และสีธรรมชาติ

ฟิล์มทึบแสงมีให้เลือก 3 แบบ ตามความเงา คือ แบบเงา แบบกึ่งเงา และแบบด้าน

คุณสมบัติข้อดีของสีทาไม้

1. ปกปิดลวดลายของไม้ และสีเดิมของไม้ได้ดี

2. ใช้งานได้ทั้งกับงานไม้และงานโลหะ

3. ทำให้ไม้มีความทนทานต่อสภาพอากาศได้ดีขึ้น โดยจะกันทั้งน้ำเข้าและออก แต่น้ำมักจะเข้าทางปลายไม้ และทำให้ไม้ผุจากข้างในได้

4. ฟิล์มของสีทาไม้ไม่สามารถยืดหรือหดตัวได้ จึงไม่ทนทานกับการยืดหรือหดตัวของเนื้อไม้ เมื่อถูกฝนหรือแดดนานๆ อาจจะเกิดการแตกได้ โดยปกติแล้วเมื่อใช้สีทาไม้ในปกป้องราวบันไดหรือระเบียง ชั้นเคลือบมักจะมีรอยแตกมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจาก "การหายใจ" ของไม้ธรรมชาติ

5. โดยอายุการใช้งานประมาณ 5-10 ปี ตามที่ผู้ผลิตมักจะระบุ

6. ก่อนที่จะลงสีทาไม้ ควรลงสีรองพื้นไม้เพื่อกันเชื้อราก่อน

7. สีอาจจะเกิดอาการเหลืองตัวขึ้นได้ เมื่อผ่านการใช้งานมานาน โดยเฉพาะสีขาว หรือสีที่อ่อน

สรุปแล้ว การเลือกสีทั้งสองประเภท โดยหลักๆขึ้นอยู่กับการใช้งานนั่นเอง โดยเฉพาะการโชว์ลวดลายของไม้ ซึ่งไม้สนถือเป็นไม้ที่มีลวดลายสวยงาม เหมาะแก่การคงลวดลายไว้ เพื่อให้ชิ้นงานมีเอกลักษณ์เฉพาะ สีย้อมไม้จึงมักจะตอบโจทย์สำหรับไม้สนมากกว่า แต่หากต้องการงานที่ไม่เน้นโชว์ลวดลายของไม้ สีทาไม้ก็สามารถใช้ได้ไม่ผิดอะไรนะ